ยศตำแหน่งของพระ ต้องเอาอย่างช้างศึกของพระราชา เพราะแม้พระราชา
จะพระราชทานยศอันสูงศักดิ์แก่ช้างสักเท่าไร ช้างก็มิได้หลงไหลมัวเมาใน
ยศตำแหน่งนั้น หากแต่ยังทำหน้าที่ตนเองตามปกติ คือถึงเวลามีศึกสงคราม
ช้างก็ออกรบด้วยความกล้าหาญ และสิ่งที่ช้างต้องการ ก็คือกล้วยและอ้อย
เป็นอาหารเติมพลังเช่นเดิม พระเองก็เช่นกัน
ยศตำแหน่งนั้นนี้ ก็มิได้มีไว้เพื่อข่มเหงหรือรังแกเบียดเบียนกัน หรือเพื่อมุ่งประโยชน์แก่ตนฝ่ายเดียวอย่างลืมหูลืมตา
หากแต่ต้องทำใจกายให้ได้ดั่งช้างทรงของพระราชา ทำหน้าที่แห่งความเป็นพระให้สม่ำเสมอดีงามสืบไป
ส่วนที่เป็นนั่นนี่ ก็เพื่อได้ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ส่วนที่ให้เป็นตำแหน่งนั้นนี้ ให้เป็นชั้นนั้นชั้นนี้ ก็เป็นเพื่อจะได้ทำหน้าที่
ควบคุมปกครองคณะอีกชั้นหนึ่ง ที่นอกเหนือไปจากพระธรรมวินัย เพื่อความมั่นคงอยู่รอดของพระพุทธศาสนา
พระธรรมวินัยและเพื่อความมั่นคงของสถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสำคัญ ยศตำแหน่งของพระ
ก็มีไว้เพื่อรักษาพระธรรมวินัย หาใช่เพื่อประโยชน์อื่นใด หากจะเป็นที่มาของลาภสักการะและทรัพย์อยู่บ้าง ก็มีไว้เพื่อ
เป็นสะพานสร้างบุญกุศลให้สังคม และช่วยเหลืองานพระศาสนาจุนเจือสังคมเป็นสำคัญ
#พระก็ยังเป็นพระ
แม้จะเอาหัวโขน ยศฐาบรรดาศักดิ์ไปยัดให้ พระก็ยังฉันข้าว ฉันอาหารที่โยมถวายด้วยศรัทธา บำเพ็ญสมณะกิจ
บิณฑบาต สวดมนต์ เจริญภาวนา ทำหน้าที่เป็นสะพานบุญ เป็นเนื้อนาบุญ เป็นกำลังหลักให้สังคมสืบต่อไป
เมื่อทราบความประสงค์ดังนี้แล้ว จึงใคร่ขอพระคุณท่าน ได้ทบทวนตริตรอง และจงรับธุระพระพุทธศาสนา ตามหน้าที่
ให้ประสบผล จงเจริญสุขสวัสดิ์ในพระพุทธศาสนา เทอญ
ขอบคุณบทความจาก พระมหาจิรวัฒน์ ศรีสุวรรณ