ตายแล้วไปไหน

มนุษย์ตายแล้วไปไหน

ความสงสัยเหล่านี้ครั้งหนึ่งพระเจ้าปายาสิ
ได้ถาม และโต้คารมกับ พระกุมารกัสสปเถระว่า…….
@ พระเจ้าปายาสิ : มนุษย์ตายแล้วก็สูญ
โลกอื่นไม่มี. มีแต่เพียงโลกนี้โลกเดียว
เท่านั้น…..ตายแล้วก็สูญเปล่า
@ พระกุมารกัสสปะ : ท่านเห็นว่า
ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆ
บนท้องฟ้า มีไหม?
@ ปายาสิ : มีจริงอยู่ ขอรับ
@ พระเถระ : ถ้าเช่นนั้นทำไมท่านจึง
บอกว่า “โลกหน้าไม่มี”หล่ะในเมื่อเห็นอยู่
@ ปายาสิ : ข้อนั้นยกไว้ก่อน..ข้าฯเคย
บอกให้ญาติๆของข้าฯที่เคยทำแต่กรรมชั่ว
ตอนใกล้ตายว่า..ถ้าหากตายไปแล้วจง
กลับมาบอกด้วยว่า”นรก”มีจริงไหม ก็ไม่
เคยเห็นใครกลับมาบอกสักคน..นรกไม่มี
เป็นเพียงการบอกเล่ากันเท่านั้น…
@ พระเถระ : สมมุติว่า โจรโฉดคนหนึ่ง
ถูกราชบุรุษจับได้นำไปสู่แดนประหาร เขา
อ้อนวอนให้เพชฌฆาต ปล่อยชั่วคราวให้ไป
ลาภรรยา-บุตรก่อน ถามว่าเพชฌฆาตจะอนุ
ญาตไหม?
@ ปายาสิ : ไม่อนุญาต ขอรับ
@ พระเถระ : คนไปตกนรกย่อมถูกไฟ
นรก แผดเผาเร่าร้อนทุกข์ทรมาน และนาย
นิรบาล ก็ไม่ยอมปล่อย แล้วเขาจะมาบอก
ท่านได้อย่างไร…
@ ปายาสิ : ข้อนั้นยกไว้ก่อน..ข้าฯเคย
บอกญาติๆของข้าฯที่สร้างแต่คุณความดี
มาตลอด ตอนใกล้ตายว่า เมื่อท่านไป
สวรรค์แล้ว ขอให้กลับมาบอกด้วย แต่แล้ว
ก็ไม่เคยมีใครกลับมาบอกตายแล้วก็สูญไป
หมดทุกคน สวรรค์ก็ย่อมไม่มี เป็นเพียงคำ
พูดกันเท่านั้น….
@ พระเถระ : สมมุติว่ามีบุรุษคนหนึ่งเดิน
ไปตกหลุมส้วมจมลงทั้งตัว พระราชาสั่งให้
คนนำเอาบุรุษคนนั้นขึ้นมาแล้วให้อาบน้ำให้สะอาดดีจัดหาเสื้อผ้าดีๆสวมใส่ให้ แล้ว
นำไปไว้ในปราสาท บำเรอด้วยกามคุณ ๕ มีสาวๆสวยๆให้เลือกได้ตามต้องการ ถามว่าบุรุษนั้นจะอยากกลับลงไปหลุมส้วม อีกไหม?
@ ปายาสิ : เขาไม่กลับแน่ ขอรับ
@ พระเถระ : อีกประการหนึ่ง เมืองสวรรค? เป็นดินแดนแห่งความเสพสุข
ด้วยกามคุณ และเสวยทิพย์ทุกอย่าง ผู้ไปแล้วจะยินดีในการเสพสุขไม่เสื่อมคลายเขาไม่อยากกลับมาโลกมนุษย์อันไม่สะอาดเปรียบด้วยหลุมคูถหลุมส้วมนั้น…
และประการหนึ่ง เวลา ๑ วันกับ ๑ คืนบน
สวรรค์ เท่ากับ ๑๐๐ ปีในโลกมนุษย์ สมมุติว่า
ญาติ ของท่านขอเวลาเที่ยวบนสวรรค์สัก
๒-๓วันค่อยจะมาบอก …เมื่อเป็นดังนั้น ก็
เลยไปเป็น๒๐๐-๓๐๐ ปีแล้ว ท่านจะยังอยู่
รอไหม?…..
(ปายาสิสูตร)

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ครามหู ครูรักษ์ธรรม